วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดสระเกศ) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ วัดภูเขาทอง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้สักการะมากมาย จุดไฮไลท์คือด้านบนสูงสุดของวัด ก่อนจะขึ้นไปถึงด้านบนจะต้องเดินขึ้นบันไดจำนวน 344 ขั้นก่อน และจะพบกับองค์พระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดภูเขาทอง มีจุดไฮไลท์มากมาย แต่จะจุดที่สำคัญที่สุดคือ จุดที่เรียกว่า ‘สะดือประเทศ’ หมุดศูนย์กลางเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจที่ดิน ขายอสังหาริมทรัพย์ ก่อนไปดูทริคการไหว้ ‘สะดือประเทศ มาดูจุดไฮไลท์ต่างๆกันก่อนค่ะ

ต้นพระศรีมหาโพธิ์
     มีอายุกว่า 200 ปี นำมาปลูกที่หน้าพระอุโบสถวัดสระเกศ วัดสุทัศน์และวัดมหาธาตุ ในสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งในหลวงรัชกาลที่2 ทรงปลูกโดยพระองค์เองเมื่อ พ.ศ. 2357 บรรยากาศบริเวณนี้จะมีความร่มรื่น ลมพัดเย็นสบาย ใครมานั่งสมาธิหรือปฏิบัติธรรมที่นี่ก็จะดีไม่น้อยเลยค่ะ

พระอุโบสถ
     ภายในพระอุโบสถมีหลวงพ่อพระประธานปางสมาธิ ในสมัยอยุธยา ประดิษฐานอยู่  และมีความวิจิตรงดงามของอุโบสถ ที่ตั้งอยู่ในกำแพงแก้ว บนลานกระเบื้องลวดลายโบราณ ด้านหน้าและด้านหลังของพระอุโบสถสลักลายกนก ลายก้านขด ประดับด้วยกระจกสี พร้อมทั้งประดับรูปพระนารายณ์ทรงครุฑไว้ตรงกลาง ทำให้พระอุโบสถแห่งนี้งดงามและเต็มไปด้วยความขลัง

พระวิหารหลวงพ่ออัฏฐารส
     สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อดุสิต และพระอัฎฐารส พระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ มีอายุกว่า 700 ปี เป็นศิลปะในสมัยสุโขทัยตอนต้น สามารถมากราบไหว้ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตได้เลย

หลวงพ่อดำ
     สำหรับใครที่ไม่สามารถขึ้นไปชมพระบรมบรรพตได้ ก็สามารถมาแวะสักการะ หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปปางมารวิชัยได้ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างในช่วงยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยสร้างไว้ให้ผู้ที่ไม่สามารถขึ้นบันไดไปบูชาบนองค์บรมบรรพตได้ ก็มาบูชาที่พระพุทธรูปองค์นี้แทนค่ะ

พระบรมบรรพต
     พระบรมบรรพตหรือภูเขาทอง สัญลักษณ์ของวัดภูเขาทอง เมื่อมาถึงด้านบนก็ต้องกราบไหว้พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานอยู่ตรงทางเข้าองค์พระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุนามว่า พระพุทธนิมิต,นิรมิต,เนรมิตวิชิตมารโมลี ศรีสรรเพชญมบรมไตรโลกนาถ (ปางทรงเครื่องจักรพรรดิ) และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดก็ได้ก็คือการเวียนเทียนรอบภูเขาทอง ด้านบนนี้จะทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นสบาย มีลมพัดเอื่อยๆ มาปะทะตัวตลอด ถ่ายรูปชมวิวเมืองกรุงแบบเพลินมากๆ
โดยรอบๆ 4 ทิศของภูเขาทอง จะมีเจ้าเกณฑ์ชตา 4 องค์ ซึ่งสามารถมากราบไหว้ขอพรจากเจ้าเกณฑ์ชะตาประจำแต่ละนักษัตรได้ เพราะเจ้าเกณ์ชะตาจะรู้ความเป็นไปของชะตาของชีวิตมนุษย์ สามารถมาเล่าปัญหาที่พบเจอและขอพรจาก
ท่านได้

พระธาตุตรงกลาง เป็น ปีวอก 

ท้าวกะทะรส หากเดินขึ้นมาจากทางเดินขึ้นสู่สวรรค์ จะเห็นท้าวกะทะรสองค์แรก ซึ่งเป็นเจ้าเกณฑ์ชะตาของคนเกิดปีชวด ฉลู ขาล โดยสามารถไหว้ด้วยผลไม้ แอปเปิ้ล ส้ม กล้วย

ท้าววิรฬหก เจ้าเณฑ์ชะตาของคนเกิดปีเถาะ มะโรง มะเส็ง  สามารถไหว้ด้วยทองหยิบ ทองหยอด และเป็นเจ้าเกณฑ์ชะตา ด้านโรคภัยไข้เจ็บ ปลอดทุกข์โศกโรคกับ

ท้าววิรูปักษ์ เจ้าเกณฑ์ชะตาของคนเกิดปีมะเมีย ปีมะแม สามารถไหว้ด้วยของเส้น เช่น ผัดหมี่ ขนมไทยที่เป็นเส้น เช่น ฝอยทอง ขอด้านการงาน

ท้าวเวสสุวรรณ เจ้าเกณฑ์ชะตาของคนเกิดปีระกา จอ กุน ไหว้ด้วยของที่เป็นชิ้นเดียว เช่น หมู ไก่ ซาลาเปา ส่วนใหญ่คนเกิดปีนี้จะมีปัญหาเรื่องเงิน จึงขอโชคลาภและความสำเร็จได้

จุดสำคัญบนพระบรมบรรพต(ภูเขาทอง) 
      จุดสำคัญบนพระบรมบรรพต(ภูเขาทอง)  คือ "สะดือประเทศ" เหล่าผู้คนมีความเชื่อกันว่า หากมาไหว้ "สะดือประเทศ" จะขอพรในเรื่องของความมั่นคงทางชีวิต การงาน ความรัก ได้ และรวมถึงใครต้องการขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ก็มาขอพรให้ขายได้เช่นกัน ทริคคือต้องนำสำเนาโฉลกที่ดินมาไหว้ด้วย