5 อันตรายของ Phishing email ที่ส่งผลเสียต่อองค์กร และวิธีการป้องกัน

Friday, April 12, 2024
5-5-อนตรายของ-Phishing-email-ทสงผลเสยตอองคกร-และวธการปองกน1040x1040.jpg



          การโจมตีด้วยวิธี Phishing เป็นหนึ่งในวิธีการโจมตีทางไซเบอร์ที่รุนแรงและพบได้บ่อยในวงการธุรกิจและองค์กรทั่วโลก ซึ่งเป็นการโจมตีที่มุ่งเน้นทำให้ผู้ใช้ไม่ระวังและเปิดเผยข้อมูลสำคัญ นี่คือเหตุผลที่ Phishing Email มีความเสี่ยงและอันตรายต่อองค์กร และนี้คือ 5 อันตรายของ Phishing email ที่ส่งผลเสียต่อองค์กร
1.jpg
 
  1. การสูญเสียข้อมูลสำคัญ หากพนักงานหรือบุคลากรในองค์กรตอบกลับอีเมลฟิชชิ่งและให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ข้อมูลบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลองค์กร องค์กรก็สามารถเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลที่มีค่าได้ เช่น ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลทางการเงิน หรือความลับทางธุรกิจ
  2. การโจมตีระบบ อีเมลฟิชชิ่งอาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบขององค์กร โดยการส่งไฟล์แนบที่มีโปรแกรมมัลแวร์หรือลิงก์ที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย เมื่อพนักงานคลิกหรือเปิดไฟล์ดังกล่าว องค์กรก็อาจเสี่ยงต่อการโจมตีระบบที่สำคัญ เช่น การเข้าถึงข้อมูลระบบ การเข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้า หรือการสร้างความเสียหายต่อระบบพื้นฐานภายในองค์กร
  3. การสูญเสียเวลาและทรัพยากร การต้องจัดการกับการโจมตีฟิชชิ่งอีเมลอาจทำให้องค์กรสูญเสียทั้งเวลาและทรัพยากรในการตรวจสอบ และการป้องกันการโจมตี ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพขององค์กรลดลง
  4. ความเสียหายต่อชื่อเสียง หากองค์กรของคุณมีการโจมตีฟิชชิ่งอีเมลและทำให้ข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ถูกขโมย นั่นอาจส่งผลให้ชื่อเสียงขององค์กรเสื่อมเสียได้ ทำให้ลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์สูญเสียความเชื่อมั่นในตัวองค์กรและย้ายไปยังองค์กรอื่นในที่สุด
  5. ค่าใช้จ่ายในการเรียกคืน หากองค์กรต้องเผชิญกับการโจมตีฟิชชิ่งอีเมลและมีการสูญเสียข้อมูลหรือทรัพยากรสำคัญ องค์กรจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการฟื้นคืนข้อมูล การปรับปรุงความปลอดภัย หรือการซื้อซอฟต์แวร์หรือบริการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเกิดการโจมตีในอนาคต ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายมากกว่าการหาทางป้องกันตั้งแต่แรก
ดังนั้น การฟิชชิ่งอีเมลมีความเสี่ยงต่อองค์กรมากๆ ไม่ใช่แค่ในเรื่องของความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและระบบ แต่ยังสามารถส่งผลต่อความเชื่อถือและค่าใช้จ่ายในองค์กรได้อีกด้วย
 

วัตถุประสงค์หลักของการฟิชชิ่งอีเมล คือ การที่จะขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือล่อให้ผู้ใช้งานตกเป็นเหยื่อของการโจมตีต่างๆ ผ่านวิธีดังนี้

 
2.jpg
  1. การล่อให้ใส่ข้อมูลส่วนตัว อีเมลฟิชชิ่งอาจประกอบด้วยลิงก์หรือแนบที่อาจล่อให้ผู้ใช้งานคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ที่ปลอดภัยที่มีรูปแบบคล้ายกับเว็บไซต์ทางการ โดยก่อนจะเข้าสู่เว็บไซต์นั้น ผู้ใช้งานอาจถูกขอให้กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน เพื่อขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ
  2. การติดตั้งซอฟต์แวร์อันตราย บางครั้งอีเมลฟิชชิ่งอาจประกอบด้วยไฟล์แนบที่เป็นตัวติดตั้งโปรแกรมมัลแวร์ลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ เพื่อใช้ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือทำลายข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์
  3. การขโมยข้อมูลทางการเงิน อีเมลฟิชชิ่งอาจประกอบด้วยลิงก์หรือไฟล์แนบที่หลอกล่อให้ผู้ใช้งานเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ที่ขอข้อมูลบัญชีธนาคารหรือรายละเอียดบัตรเครดิต เพื่อใช้ในการขโมยข้อมูลการเงิน
  4. การโจมตีระบบองค์กร ผู้ไม่ประสงค์ดีอาจใช้อีเมลฟิชชิ่งเพื่อโจมตีระบบองค์กรโดยการส่งอีเมลที่ปลอมแปลงเป็นอีเมลจากผู้บริหารหรือพนักงานสำคัญขององค์กร โดยหวังผลเพื่อเข้าสู่ระบบหรือการเปิดระบบขององค์กรเพื่อการโจมตี
          ดังนั้นการฟิชชิ่งอีเมลมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยและความเชื่อถือในการใช้งานอินเทอร์เน็ตและอีเมล ผู้ใช้งานควรระมัดระวังเมื่อได้รับอีเมลที่ไม่พึ่งประสงค์ และตรวจสอบก่อนเสมอที่จะตอบกลับหรือทำตามคำแนะนำในอีเมลที่ไม่แน่ใจว่ามีความปลอดภัยหรือไม่

4 ความเสี่ยงที่องค์กรต้องเจอ หากบุคคลหรือองค์กรได้รับฟิชชิ่งอีเมล

  1. ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว การส่งข้อมูลส่วนตัวหรือที่อยู่ให้ผู้ไม่ประสงค์ดี อาจเป็นอันตรายเนื่องจากสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการโจมตีผู้ใช้งานได้
  2. ความเสี่ยงต่อความมั่นคงปลอดภัยของระบบ การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตรายในอีเมลฟิชชิ่งอาจทำให้ระบบของผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการโจมตีและการเข้าถึงระบบสำคัญภายในองค์กรได้
  3. ความเสี่ยงต่อธุรกิจและองค์กร การเผยข้อมูลสำคัญหรือการเข้าสู่ระบบที่ไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้ธุรกิจหรือองค์กรสูญเสียข้อมูลสำคัญ หรือการสูญเสียทางการเงิน
  4. ความเสี่ยงต่อชื่อเสียง การเป็นเหยื่อของการฟิชชิ่งอีเมลอาจทำให้ชื่อเสียงของบุคคลหรือองค์กรเสียหาย และไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากมีการละเมิดถึงข้อมูลของลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์
          ดังนั้นการมีมาตรการป้องกันการฟิชชิ่งอีเมลเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความปลอดภัยและความเชื่อถือในการใช้งานอีเมลในทางธุรกิจและการสื่อสารทั่วไป
 

การป้องกันฟิชชิ่งอีเมลมีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับองค์กร เพราะช่วยทั้งประหยัดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้องค์กรของเรามีความน่าเชื่อถือ

  1. การตรวจสอบอีเมล โปรแกรมควรมีการตรวจสอบอีเมลที่เข้ามาอย่างแม่นยำ โดยการสแกนและตรวจสอบลิงก์และไฟล์แนบเพื่อตรวจจับฟิชชิ่งอีเมลที่เป็นอันตราย
  2. สแกนไฟล์แนบ โปรแกรมควรที่จะสามารถสแกนไฟล์แนบที่มากับอีเมลเพื่อตรวจสอบว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ และป้องกันการเปิดไฟล์ที่เป็นอันตราย
  3. ระบบตรวจสอบสแปม โปรแกรมควรมีระบบตรวจสอบสแปมที่มีประสิทธิภาพในการกรองอีเมลสแปมและอีเมลฟิชชิ่ง ที่มีการตั้งค่าที่สามารถปรับแต่งได้ตามความเหมาะสม เพื่อลดจำนวนอีเมลที่ไม่พึงประสงค์และมีประสิทธิภาพ
  4. อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเว่อน์ชั่นปัจจุบัน โปรแกรมควรมีการอัปเดตที่สม่ำเสมอเพื่อรักษาความปลอดภัย และควรใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการตรวจจับและป้องกันฟิชชิ่ง เพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
  5. ความง่ายต่อการเข้าใจ โปรแกรมควรง่ายต่อการใช้งาน เผื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจได้ง่ายขึ้น และควรมีคำแนะนำรวมถึงควรมีการแจ้งเตือนเมื่อพบอีเมลที่เป็นอันตราย
  6. การสนับสนุนและบริการหลังการขาย การมีการสนับสนุนที่ดีและบริการหลังการขายที่มีคุณภาพสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการป้องกันฟิชชิ่งได้อย่างทันท่วงที


          ดังนั้นการเลือกโปรแกรมป้องกันฟิชชิ่งอีเมลที่มีคุณภาพที่ดีจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ในการใช้งานอีเมล ว่าจะสามารถใช้งานอีเมลได้อย่างปลอดภัยและป้องกันการเสี่ยงอันตรายต่อข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลธุรกิจของคุณ ได้ทุกเวลา ทำให้องค์กรมีความน่าเชื่อถืออย่างสูงสุด


ติดต่อสอบถามขอรายละเอียดสินค้าที่ VSM365
ศูนย์รวมซอฟต์แวร์ที่ได้รับการคัดสรรมาเพื่อธุรกิจและองค์กรของคุณ ได้ที่

Email : [email protected]
Line : http://line.me/ti/p/~@vsm365
Inbox : https://m.me/vsm365
Youtube : https://www.youtube.com/vsm365
Spotify : https://spoti.fi/3pBhF2c
Blockdit : https://www.blockdit.com/vsm365
ดูสินค้าเพิ่มเติม : www.vsm365.com/th/Store
ทดลองใช้โปรแกรม : www.vsm365.com/th/Contact
ขอใบเสนอราคา : www.vsm365.com/th/Contact
ติดต่อฝ่ายขาย :

Tags:
 

แชร์บทความของเรา

VIEWS
133

All

Lastest Article

42

บทความแนะนำ